เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 3. อนาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิใน
บางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสิน-
ทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้
อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและ
อิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :403 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 3. อนาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[302] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :404 }